10 วิธีทำอย่างไรให้ขายของได้

1.ผู้ขาย/ผู้นำเสนองาน ต้องมีความเชื่อมั่น

• เชื่อมั่นในตนเอง สิ่งสำคัญในการขาย คือ ความเชื่อมั่นในตนเองของตัวผู้ขาย เพราะ หากตัวผู้ขายมีความเชื่อมั่นและมีความมั่นใจในตัวเองก็จะสามารถพรีเซ็นการขายหรือนำเสนองานขายได้อย่างมีคุณภาพ การสื่อสารด้วยแสดงออกด้วยท่าทาง หรือ ทางการพูด ด้วยน้ำเสียง จะต้องมีความฉะฉาน มั่นใจ และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้ ลูกค้าที่ได้รับสารจากที่ตัวผู้ขายที่สื่อออกไปก็จะสัมผัสได้ถึงความน่าเชื่อถือและไว้วางใจในตัวผู้ขาย ว่าสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับนั้น มีคุณภาพและมีความเชื่อมั่นในตัวสินค้าที่ผู้ขายแนะนำ หากตัวผู้ขายเอง ไม่มีความเชื่อมั่น และ มั่นใจในตัวเอง ก็จะส่งผลไปถึงลูกค้าทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในตัวผู้ขายว่าสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับนั้นดีจริงหรือมีคุณภาพหรือไม่
• เชื่อมั่นในสินค้า ผู้ขายจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในตัวสินค้านั้นๆ เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้ตัวผู้ขายเกิดความเชื่อมั่น ที่จะสื่อสาร ถึงตัวสินค้า ว่าสินค้าของเรานั้นเป็นอย่างไร มีอะไรที่พิเศษแตกต่างจากที่อื่น และ รู้จุดอ่อนจุดแข็ง ของสินค้านั้นๆว่ามีข้อดีอะไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร ที่ทำให้ลูกค้าต้องมาซื้อและใช้บริการกับเรา ทำให้ลูกค้าเห็นภาพ และจินตนาการ มีส่วนร่วมไปกับการนำเสนองาน
• เชื่อมั่นในการบริการ ความเชื่อมั่นในการบริการ คือส่วนที่ลูกค้าจะได้รับก่อนการขายและหลังการขาย เพราะการบริการก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะซื้อใจลูกค้าและทำให้ลูกค้ามาใช้บริการกับเรา หากเรามีคำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าได้ดี ดูแลลูกค้าดี ลูกค้าก็ยินดีที่จะซื้อสินค้าและมาใช้บริการด้วย เนื่องจากสิ่งที่จะได้รับจากผู้ขายไม่ใช่แค่ซื้อสินค้าแล้วจบ หากเรามีบริการที่ดีลูกค้าอาจจะนำไปบอกต่อหรือกลับมาซื้อซ้ำได้ เพราะ การบริการของผู้ขาย

สินค้าที่ดีมันสามารถขายตัวมันเองได้และสามารถประเมินค่าได้จากผู้ที่ใช้จริง แต่ส่วนที่จะกระตุ้นให้ขายได้ดียิ่งขึ้น คือ “ตัวผู้ขาย”

2.ลักษณะวิธีการนำเสนองาน / การเสนอขาย ของผู้ขาย

          วิธีการนำเสนองานหรือการนำเสนอขายให้กับลูกค้า ผู้ขายต้องดูว่ากลุ่มลูกค้าที่จะนำเสนอขายเป็นกลุ่มลูกค้าแบบไหนเพราะจะได้นำเสนองานขายได้ถูกต้องและตรงจุด และการนำเสนองานขายแต่ละงานเราจะต้องมองลูกค้าให้ออกว่าลูกค้าต้องการสิ่งใด และ พบเจอกับปัญหาอะไรอยู่เนื่องจากลูกค้าแต่ละรายจะพบเจอจะมีความแตกต่างกัน และ วิธีการเข้าหาลูกค้าแต่ละรายก็จะไม่เหมือนกัน

          การนำเสนองานของผู้ขาย ควรจะเป็นลักษณะที่ทำให้ลูกค้าเห็นภาพ ชัดเจน และครบถ้วน เช่น ถ้าโทรเสนองาน ก็อาจจะต้องใช้น้ำเสียงที่ดี น่าฟัง ใช้คำพูดสื่อสารเชิงเปรียบเทียบ หรือทำให้ลูกค้าเห็นภาพมากที่สุด ว่าสินค้าเราดีอย่างไร สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน

          การนำเสนองานทางไลน์ ก็จะต้องใช้ภาพที่สวยงาม สื่อสารชัดเจนว่าสินค้าและบริการของเรามีอะไรบ้าง ต้องเลือกภาพที่สวยงาม น่าสนใจและดึงดูด หรืออาจจะส่งเป็นคลิปวิดิโอเพื่อง่ายต่อการชมผลงานด้วย และเห็นภาพชัดเจน เพราะสมัยนี้ คนเราชอบอะไรที่ไวและรวดเร็ว ทำเป็นคลิปเดียวจบครบทุกสินค้า

3.สร้างภาพลักษณ์และความโดดเด่นให้กับสินค้าให้น่าจดจำ

1. ภาพรวมของบรรจุภัณฑ์ ต้องดูดี สินค้าต้องสวย ดูโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
2. ข้อความที่เชิญชวนต้องดึงดูด สั้นกระชับ เข้าใจง่าย
3. ดึงจุดแข็งในตัวของสินค้าออกมา ว่ามีดีอย่างไร ผ่านด้วยภาพ และข้อความ
4. สร้างความแตกต่างของสินค้าที่ไม่เหมือนของคนอื่น
5. ลูกค้าเข้าถึงง่าย

4.ต้องรู้วิธีการตั้งคำถามเพื่อให้รู้ความต้องการของลูกค้า รู้ปัญหาของลูกค้า

ตั้งคำถาม เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อใช้ ในการที่จะปิดการขาย
คำถามที่ดี จะได้คำตอบ แล้วนำไปสู่การปิดการขาย
ตั้งคำถามเพื่อหาสาเหตุของปัญหาที่ลูกค้าเคยพบเจอและแนะนำในส่วนที่ลูกค้ายังไม่ทราบหรือบอกวิธีการแก้ไขของปัญหา
ตั้งคำถามหาความต้องการของลูกค้าว่า ต้องการสิ่งใด บางรายต้องการจากตัวสินค้า บางรายต้องการจากบริการ
ตั้งคำถามเชิงให้คำแนะนำ
ตั้งคำถามให้ลูกค้าเกิดความอยากรู้ เกิดความต้องการ

5.สื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ ถึงสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ จากการจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการ

          บอกกล่าวถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเมื่อได้มาซื้อและใช้บริการกับเรา ว่าลูกค้าจะได้อะไรกลับไปบ้าง สินค้าที่ดีและมีคุณภาพรวมถึงบริการหลังการขายที่เราใส่ใจ ตั้งแต่ก่อนการขายรวมถึงหลังการขายเพื่อที่ลูกค้าจะได้รับผลประโยชน์ที่ดีต่อตัวลูกค้ามากที่สุด

คำว่า คุ้มค่า คุ้มราคาของคุณคืออะไร
ซื้อของแพงแล้วใช้งานได้ ดีกว่าซื้อของถูก แล้วไม่ได้ใช้งาน หรือใช้งานไม่ได้ ก็เท่ากับว่าคุณซื้อของแพง

6.วิธีการขายแบบไม่ได้ขาย

1. หาสิ่งที่ลูกค้าสนใจ หาสิ่งที่ลูกค้าชอบ หาสิ่งที่ลูกค้าภูมิใจ แล้วพูดคุยถึงสิ่งเหล่านั้น
2. เป็นผู้ฟัง มากกว่าเป็นผู้พูด ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจ เมื่อคุยกับเรา
3. หมั่นผูกมิตรไมตรี สร้างความสัมพันธ์ที่ดีอยู่เสมอ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ อาจจะไม่ต้องพูดคุยเรื่องการงานก็ได้ สอบถามเรื่องทั่วไป พูดคุยแบบผ่อนคลาย เหมือนพี่น้อง ญาติมิตร ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราพร้อมดูแลเค้าเสมอ ถ้าเค้าต้องการสิ่งใดหรือมีปัญหาใด เมื่อไร ก็พร้อมจะซัพพอร์ตเสมอ
   เมื่อคุณผู้ขายสามารถเปิดใจของลูกค้าได้ ต่อให้คุณขายของแพงก็จะเป็นของที่ถูกในทันที

7.การเป็นคู่คิดคู่ปรึกษา

1. ในการทำธุรกิจหรือการซื้อขายสินค้า ลูกค้าอาจจะยังไม่รู้จักข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าหรือธุรกิจมากพอ จึงต้องอาศัยคำแนะนำและคำปรึกษาจากตัวผู้ขาย หรือ ตัวผู้ขายเองอาจจะยังไม่เคยพบเจอปัญหาในสิ่งที่ลูกค้าเจอ ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดและไอเดียต่างๆ เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อขายหรือการทำธุรกิจเพราะคำแนะนำและข้อเสนอแนะต่างๆ อาจจะส่งให้กิจการสามารถดำเนินไปได้ในระยะยาวและสร้างความไว้วางใจในการร่วมงานกัน
2. เมื่อลูกค้าสอบถาม ปรึกษา เรื่องใดๆก็ตาม ผู้ขายควรมีความกระตือรือร้น ที่จะหาคำตอบเพื่อมาตอบให้กับลูกค้า เพราะบางเรื่องอาจมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเลยก็ได้ คอยให้คำปรึกษา และดูแลเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกค้าติดปัญหาอยู่
3. ทำให้ลูกค้ารู้สึกคลายกังวล ความกลัว เมื่อต้องเผชิญปัญหา เสมือนว่าเราอยู่เคียงข้าง
4. ไม่ว่าลูกค้าจะมีปัญหาหรือพบเจอปัญหาใดก็ตาม ถ้าลูกค้าคิดถึงคุณ ติดต่อหาคุณ นั่นเท่ากับว่า คุณเป็นคนสำคัญ แล้วการขายสำหรับคุณจะไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป

8.มีศิลปะในการตั้งราคา ให้ต้องตา ถูกใจ

          การตั้งราคาถ้ามองในสถานะลูกค้าจะคำนึกถึงความคุ้มค่าของราคา คุณภาพของสินค้า และสิ่งที่จะได้รับ
เพื่อที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดและต้องคุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายไป และอาจจะต้องใช้ในเรื่องของจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวด้วย

          ซึ่งตัวเลขมีผลต่อความต้องการอยากซื้อของลูกค้า และให้ความรู้สึกว่า ถูกหรือแพง ได้เหมือนกัน การตั้งราคาสินค้าที่ลงท้ายด้วยเลข 9 มักจะช่วยกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าได้ดี เพราะให้ความรู้สึกว่าถูกกว่า

          ยกตัวอย่างเช่น สินค้าราคา 200 บาท ลูกค้าอาจจะมองว่าราคาแพง แต่พอราคา199 บาทลูกค้าอาจจะมองว่าถูกและกล้าที่จะซื้อ ซึ่งถ้ามองในอีกมุมราคาก็ต่างกันแค่ 1บาท ไม่ได้แตกต่างกันมากจนเกินไป และถ้ายิ่งใส่คำว่า โปรโมชั่นเข้าไปด้วย จะยิ่งทำให้น่าสนใจเข้าไปได้เพิ่มอีก

9.จัดโปรโมชั่นกระตุ้นความต้องการ

          การจัดโปรโมชั่นเป็นสิ่งสำคัญในงานขายเพราะจะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ และอาจจะได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นจากการจัดโปรโมชั่น เพราะ คำว่าโปรโมชั่น สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมันต้องได้ประโยชน์มากกว่าการซื้อขายแบบทั่วไปอยู่แล้วและสิ่งที่จะกระตุ้นความต้องการของลูกค้าได้ คือ ความคุ้มค่า ปริมาณที่มากขึ้น คำว่าแถม หรือ ฟรี เพราะลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากการซื้อขายทั่วไปและรู้สึกพิเศษ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับลูกค้า

10.การติดตามงานของผู้ขาย

          ส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจในการใช้บริการหรือซื้อขายต่อคือ การติดตามงานของผู้ขาย เพราะลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการบริการ การเทคแคร์ลูกค้า รวมถึงหากสินค้าเกิดมีปัญหา หรือ มีส่วนไหนที่ลูกค้าต้องการให้แก้ไขก็จะได้
รับเรื่องไว้และพร้อมที่ปรับปรุงพัฒนาแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพในครั้งต่อๆไป และเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและอาจจะเกิดการบอกต่อหรือแนะนำลูกค้ารายใหม่ได้

ออกแบบ และผลิต ฉลากแบรนด์สินค้าเกรด Premium🎉🎉🎉 ไว้วางใจ “ออลแพค” ทำงานอย่างมืออาชีพ พร้อมบริการประทับใจ

ออลแพคออกแบบ และผลิตฉลากโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 15 ปี💫

⭐️ให้คำปรึกษา
💥ออกแบบฟรี
🌟ผลิตชิ้นงาน
🔥ส่งตรงเวลา
✨มีโปรโมชั่นหลังการขาย

ช่องทางการติดต่อ
📱Link line : https://line.me/ti/p/ax0DNpwFLk (ดาว)
📞Tel : 084-996-4424, 062-442-4954
🌐Website : https://allpackmakelink.com/